สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านที่น่ารักทุกคน
มาเจอกันอีกแล้วกับบทความรีวิวผ่าตัดขากรรไกรที่ส่งผลต่อโครงหน้า แต่คราวนี้จะเป็นการผ่าตัดที่จะแก้ปัญหาโครงหน้าเบี้ยวของสาววัยกลางคนท่านหนึ่งที่เพิ่งจะกล้าตัดสินใจทำศัลยกรรม เพราะเธอก็เป็นคนนึงที่กลัวการผ่าตัดเช่นกัน
อย่างที่เกริ่นไปข้างต้นว่าเธอมีปัญหาโครงหน้าที่เบี้ยวและมีคางที่ยาวเกินไป เวลาถ่ายรูปก็รู้สึกไม่ค่อยมั่นใจ เนื่องจากรูปหน้าที่ไม่สมมาตร และนั่นก็ทำให้เธอดูหน้าแก่ไปด้วย เธอจึงแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการเอาผมมาบังใบหน้าบางส่วนของเธอ อย่างน้อยเธอก็ได้พอวางใจว่าคนรอบข้างจะไม่สังเกตเห็นรูปหน้าที่เบี้ยวของเธอจนเกินไป
เธอก็เป็นเหมือนคนอื่นเช่นกันที่คิดอยากจะเปลี่ยนแปลงโครงหน้าตัวเองด้วยการศัลยกรรม เพื่อให้ได้รู้สึกมั่นใจในการใช้ชีวิตกว่านี้ แต่เธอก็มีความกลัว ถึงขั้นบอกว่ากลัวมาก ๆ จึงไปแก้ปัญหาด้วยการจัดฟันไปก่อน ซึ่งนั่นก็ไม่ได้ทำให้โครงหน้าเปลี่ยนไปมากนัก มีเพียงแถวฟันที่เรียงกันสวยงามขึ้นเท่านั้น นึกแล้วเธอก็ยังเสียดายเงินที่เสียไปอยู่เลย
และแล้วเธอก็ตัดสินใจใหม่เพื่อการเปลี่ยนแปลงโครงหน้าด้วยการศัลยกรรม ก่อนที่อายุของเธอจะพรากความสาวไปมากกว่านี้ อย่างน้อยก็อยากใช้ชีวิตและภูมิใจกับภาพลักษณ์ที่สวยงาม และเมื่อเธอตัดสินใจดังนั้น เธอก็เลือกไปทำศัลยกรรมที่โรงพยาบาลศัลยกรรมอียู (EU Oral & Maxillofacial Surgery)
หลังผ่าตัดวันที่ 1
สิ่งแรกที่คุณหมอห้ามก็คือ การห้ามนอนเป็นเวลา 6 ชั่วโมง และเธอจะต้องเจอกับอาการคลื่นไส้ อาเจียน เนื่องจากการใช้ยาสลบเวลาทำการผ่าตัดนั่นเอง ซึ่งเป็นความลับอย่างหนึ่งที่คนไม่ทำศัลยกรรมจะไม่รู้ถึงความเจ็บปวดอันแสนสาหัสนี้ ใจจริง หลังทำศัลยกรรมวันแรกเธอก็อยากเปิดประตูโรงพยาบาลออกไปวิ่ง แต่สิ่งสำคัญของเธอคือการอดทนอยู่แต่ห้องเท่านั้น!
หลังจากการผ่าตัดผ่านไป 1 เดือน
หลังการผ่าตัดครบ 1 เดือนก็ตรงกับช่วงวันหยุดปีใหม่พอดี จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะแวะเวียนบ้านญาติด้วยใบหน้าที่เธอภูมิใจมากกว่าเก่า ทุกคนก็ทักเป็นเสียงเดียวกันว่าเธอดูหน้าเด็กลงไปมาก ซึ่งก็เป็นด้วยผลลัพธ์ของการผ่าตัดและอาการบวมที่เหลืออยู่ของเธอ และในช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่เธอกระตือรือร้นหมั่นขยับปากบ่อย ๆ เพื่อให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายมากขึ้น ซึ่งเธอยังมีอาการกล้ามเนื้อที่กรามเกร็งเล็กน้อยหลังจากทำศัลยกรรม
ซึ่งแม้จะผ่านไปเพียง 1 เดือน แต่เธอก็รู้สึกว่าใบหน้าของเธอดูสดใสขึ้นมาก ๆ และเธอก็คาดหวังกับใบหน้าของเธอในอีก 2 และ 3 เดือนหลังจากนี้พอสมควร
หลังผ่านไป 2 เดือน
เธอก็คิดแปลกใจกับเวลาที่ผ่านไปรวดเร็วขนาดนี้ ไม่คิดว่าจะผ่านไปแล้ว 2 เดือน เพราะวันที่เธอผ่าตัดวันแรก เหมือนเวลาจะไม่หมุนไปไหนเลย และตอนนี้อาการบวมก็ยังเหลือแก้มอีกข้างนึง
จากที่เธอมีใบหน้าที่เหลี่ยมและเบี้ยว ตอนนี้เธอก็กลายเป็นคนที่มีหน้ากลมขึ้นและดูเป็นผู้หญิงมากขึ้น เพื่อน ๆ ของเธอบอกว่าเธอทำศัลยกรรมก็ดูเหมือนไม่ทำ เหมือนแค่จัดฟันอย่างเดียวมากกว่า ซึ่งก่อนหน้านี้เธอก็กลัวว่ามันดูพลาสติกไปรึเปล่า แต่สิ่งที่ออกมาคือหน้าเธอดูเป็นธรรมชาติมาก ๆ ต้องขอบคุณทีมแพทย์โรงพยาบาลอียูจริง ๆ
หลังจากการผ่าตัดผ่านไป 3 เดือน
เธอก็ยุ่งกับการทำงานจนเธอลืมความรู้สึกตอนได้รับการผ่าตัดไปแล้วบางส่วน ดูเหมือนว่าเธอจะได้รับการผ่าตัดช่วงหน้าหนาว แต่ตอนนี้เป็นช่วงที่อากาศอบอุ่นที่มีดอกบลอสซั่มร่วงลงไปตามทาง หรือพูดง่าย ๆ ก็คือตอนนี้อยู่ในช่วงใบไม้ร่วงของเกาหลีนั่นเอง
ส่วนอาการปวดกรามข้างซ้ายก็ดีขึ้นมาก เวลาเธอส่องกระจกก็รู้ว่าหน้าเป็นธรรมชาติ จนเหมือนว่าเป็นหน้าที่มีมาตั้งแต่แรกโดยที่ไม่ได้ทำศัลยกรรมมาก่อน เธอคิดว่าถ้าเธอผ่าตัดให้เร็วกว่า ชีวิตเธอจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีมากกว่านี้มั้ยนะ?
และเธอก็แอบกระซิบมาด้วยว่า สำหรับใครที่กำลังลังเลจะผ่าตัดขากรรไกร เธอก็แนะนำให้รีบมาทำกับโรงพยาบาลอียูได้เลย แบบว่าอารมณ์ที่เจอของดีก็ต้องบอกต่อ ประมาณนั้นเลยค่ะท่านผู้อ่าน
และเมื่อการผ่าตัดผ่านไปแล้ว 4 เดือน
เป็นช่วงที่อากาศร้อนเป็นพิเศษ และเป็นช่วงที่เธอไปจัดฟันมาอีกด้วย เธอบอกว่าสองวันแรก เธอต้องรู้สึกเหมือนฟันโยกและค่อนข้างปวด แต่ถึงกระนั้น การจัดฟันหลังการทำศัลยกรรมก็เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ เธอต้องอดทนไว้ เพื่อความสวยเราต้องไม่แพ้ค่ะท่านผู้อ่าน !
หลังจากที่เธอได้รับการผ่าตัดขากรรไกรแล้ว เธอก็แทบไม่ได้สังเกตจุดอื่นเลย ผลลัพธ์ของการผ่าตัดออกมาดถูกใจมาก โครงหน้าเบี้ยวของเธอก็กลับถูกแก้ไขให้เป็นธรรมชาติมากขึ้น เวลาถ่ายรูปก็รู้สึกว่ามั่นใจขึ้น และรักตัวเองมากขึ้น
และเธอก็คิดว่าหน้าตาก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเข้าสังคมมาก เธอจึงพยายามที่จะดูแลตัวเองและรักตัวเองมากขึ้นอีกด้วย
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับการรีวิวการทำศัลยกรรมแก้ไขปัญหารูปหน้าเบี้ยวของเธอคนนี้ เห็นได้เลยว่าจากที่เธอมีใบหน้าที่เหลี่ยมและดูไม่ค่อยสวย เธอก็สามารถมีใบหน้าที่ดูละมุน หน้าดูอ่อนเยาว์ มีโครงหน้าที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น ดิฉันก็คิดเหมือกับเธอค่ะ ว่าเธอน่าจะตัดสินใจทำให้เร็วกว่านี้ เพราะผลลัพธ์ออกมาเป็นธรรมชาติสุด ๆ เห็นผลลัพธ์แล้วลืมความเจ็บปวดไปเลยล่ะค่ะซิส!
สำหรับบทความในวันนี้ ก็ต้องขอตัวลากันไปก่อน
กราบสวัสดีค่ะท่านผู้อ่าน
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญศัลยกรรมเกาหลีได้ที่ LINE Official: https://lin.ee/qr7NeQB
เยี่ยมชมหน้าโปรไฟล์ ผู้เชี่ยวชาญที่ปรึกษาศัลยกรรมเกาหลีได้ที่นี่: https://oppame.co.th/miki-surgery/consultant/miki-surgery-agency-by-oppame/
Comments